Sales Order หรือใบสั่งขาย คือเอกสารที่ช่วยบันทึกและยืนยันการสั่งซื้อสินค้าของลูกค้า โดยหลังจากได้รับใบสั่งซื้อมา ฝ่ายขายจะเริ่มทำการตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ เช่น จำนวนสินค้าคงเหลือ จำนวนสินค้ากำลังผลิต และจำนวนสินค้าที่มีการจอง เพื่อให้มั่นใจว่ามีจำนวนเพียงพอจะขายให้กับลูกค้ารายนี้หรือไม่
ทำไมจึงต้องมีใบสั่งขาย
- เพื่อลดความผิดพลาดในการสั่งซื้อสินค้า
- เพื่อทบทวนรายละเอียดของสินค้าหรือบริการที่ได้รับมาจากใบสั่งซื้อ
- เพื่อให้ลูกค้ามีการยืนยันการสั่งซื้อที่แน่นอน
- นำไปใช้ประกอบเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการขาย เช่น ใบกำกับภาษี เป็นต้น
Sales Order จัดทำขึ้นเมื่อใด
ในการทำใบสั่งขายนั้น จะเกิดขึ้นหลังจากที่ทีมขายได้ทำการเปิดใบเสนอราคา (Quotation) ขึ้น เมื่อลูกค้ามีความสนใจก็จะทำเรื่องส่งใบสั่งซื้อ (Purchase Order) มาที่บริษัท หลังจากนั้น ทางบริษัทจึงจะดำเนินการเปิดใบสั่งขายส่งกลับไปให้ลูกค้าเซ็นยืนยัน เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการนั้น ทีมขายจะนำเอกสารนี้ไปเปิดใบกำกับภาษีต่อไป
รายละเอียดและลักษณะของใบสั่งขาย
- ระบุวันที่จัดส่งสินค้าแต่ละรายการ เพื่อเตรียมจัดทำแผนการจัดส่งสินค้าต่อไป
- ระบุรายละเอียดของสัญญาซื้อขายไว้ชัดเจน เช่น หมายเลขคำสั่งซื้อ ชื่อผู้สั่งสินค้า เป็นต้น
- สามารถอ้างอิงใบสั่งขายเพื่อบันทึกเป็น invoice ได้ทันที
นักขายมืออาชีพจัดการ Sales Order กันอย่างไร
- หลังติดต่อกับ lead หรือลูกค้าเรียบร้อยแล้ว พนักงานขายจะทำการออกใบเสนอราคาส่งให้ลูกค้า เมื่อลูกค้าเกิดความสนใจก็จะมีการทำเรื่องส่งใบสั่งซื้อมาที่บริษัท
- เมื่อได้รับใบสั่งซื้อมาแล้ว ฝ่ายขายนำรายการต่าง ๆ ที่ลูกค้าระบุไว้ในใบสั่งซื้อมาเช็กสต๊อกสินค้า หากจำนวนและรายละเอียดอื่น ๆ ครบถ้วนแล้ว พนักงานขายจึงจะแปลงไฟล์เป็นใบสั่งขายโดยอิงหมายเลขเอกสารจากใบสั่งซื้อ ก่อนส่งกลับให้ลูกค้ายืนยันรายการอีกรอบ
- หลังจากลูกค้ายืนยันและเซ็นชื่อรับทราบแล้ว พนักงานขายจะส่งใบสั่งขายไปให้ฝ่ายคลังสินค้า เพื่อจัดเตรียมสินค้าตามรายการที่ระบุ
- เมื่อฝ่ายคลังจัดเตรียมสินค้าตามใบสั่งขายเรียบร้อยแล้ว พนักงานขายจะนำใบสั่งขายส่งมอบให้กับฝ่ายบัญชีเพื่อออกใบกำกับภาษีให้กับลูกค้า
ติดตามเกร็ดความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับ CRM และการบริหารงานขายได้ที่
Blog: www.veniocrm.com/blog
Facebook: www.facebook.com/veniocrm
Twitter: www.twitter.com/veniocrm
Youtube: www.youtube.com/veniocrm