CRM คืออะไร? มาทำความรู้จักกับ CRM กันก่อน
CRM นั้นที่จริงแล้วก็คือกระบวนการที่ธุรกิจเน้นโฟกัสไปที่ด้านการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่าการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาวกับลูกค้าจะเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง และเมื่อพูดถึง CRM แล้วก็มักจะรวมไปถึงกลยุทธ์ เทคนิค เครื่องมือต่างๆที่ใช้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดในการดูแลลูกค้าปัจจุบันเพื่อรักษาฐานลูกค้านั่นเอง
ในปัจจุบันเมื่อพูดถึง CRM โดยมากแล้วจะเข้าใจในความหมายเดียวกันคือหมายถึงซอฟต์แวร์ด้าน CRM ที่เป็นเครื่องมือที่เกิดมาเพื่อช่วยในการจัดการด้านงานขาย การดูแลลูกค้าต่างๆ และตัว CRM นั้นก็จะมีหลายหลายประเภทมากๆขึ้นกับความต้องการใช้งาน อาจจะเป็นด้านเซลล์ ด้านบัตรมาชิก หรืออื่นๆ ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากที่ CRM กลายมาเป็นคำที่มีความหมายกว้างมากๆ แต่สุดท้ายแล้วทุกซอฟต์แวร์ด้าน CRM นั้นเกิดมาเพื่อตอบโจทย์ด้านการดูแลลูกค้าเช่นเดียวกันทั้งหมด
อีกหนึ่งความเข้าใจผิดเรื่อง CRM
อีกตัวอย่างนึงของการทำ CRM ที่ทุกท่านน่าจะคุ้นเคยกันดีก็จะเป็นการทำ CRM ในรูปแบบของ Loyalty card/reward program ต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันแบรนด์ต่างๆก็เริ่มหันมาให้ความสนใจในการทำ CRM รูปแบบนี้กันอย่างแพร่หลาย หากยังนึกไม่ออกให้ลองนึกถึงสถานการณ์ที่เราไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า แล้วพนักงานขายบอกเราว่าสินค้ามีส่วนลดให้ทำการแอดไลน์เพื่อรับคูปอง หรือตัวอย่างสุดคลาสสิคเลยก็คือบัตรสมาชิก บัตรสะสมแต้มต่างๆนั่นเอง
และด้วยความที่การทำ CRM แบบนี้เห็นได้บ่อยๆ ทำให้ผู้คนมักจะมีความเข้าใจว่าถ้าพูดถึง CRM ก็คือเรื่องพวกนี้ อันที่จริงแล้ว CRM ไม่ได้มีแค่เรื่องสะสมคะแนน ยังมีในด้านของการบริหารทีมขายอีกด้วย
ประเภทของ CRM - B2B CRM vs. B2C CRM
ซอฟต์แวร์ CRM โดยส่วนมากแล้วมักจะเน้นไปที่ product ที่เกี่ยวข้องกับ B2B เป็นหลัก เน้นเรื่องของการเก็บ customer data การจัดการทีมขาย แต่ปัจจุบัน B2C CRM เริ่มเข้ามามีบทบาทมากทำให้คนเริ่มเกิดความสับสนดังที่ได้กล่าวไป กล่าวโดยสรุปได้ดังนี้
ฺB2C CRM เน้นที่การขายให้กับลูกค้ารายบุคคล จำนวนมาก โดยมากมักจะอยู่ในอุตสาหกรรมจำพวกแบงค์ โรงแรม ค้าปลีกต่างๆ การทำ CRM จะเป็นเรื่องของการมุ่งเน้นที่จะปรับแต่งการขายสินค้าให้เหมาะสมกับประสบการณ์แต่ละบุคคลโดยดูจากความชื่นชอบต่างๆ จึงมักเป็นการทำ loyalty/reward program ต่างๆ
B2B CRM เน้นการขายในลักษณะบริษัทกับบริษัท ดังนั้นแล้วแน่นอนว่าการทำ CRM จะเป็นการมุ่งเน้นไปที่การช่วยพนักงานขายเป็นหลัก จากการที่พวกเขาต้องจัดการ sales cycle ที่ยาวนาน ทำให้การจัดการ pipeline เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ
นอกจากนี้ยังจำแนกความแตกต่างง่ายๆได้อีกดังนี้
Sales focus vs. marketing focus - B2B CRM จะเหมาะกับบริษัทที่เน้นที่ทีมขายเป็นหลัก ในขณะที่ B2C CRM จะเหมาะกับการทำตลาด ยกตัวอย่างเช่น ecommerce ที่ทำให้เห็นภาพว่าลูกค้าอยู่ในขั้นตอนไหนของการซื้อ
จำนวน Lead - B2B มักมี lead จำนวนไม่มากอาจจะอยู่ในระดับหลักร้อยถึงหลักพัน ในขณะที่สำหรับ B2C จะพูดถึงกันในระดับหลักแสนหรือหลักล้านเลยทีเดียว
Sales Cycle - B2B มักจะยากที่จะบอกได้ว่าจะปิดการขายได้ตอนไหน เพราะมีปัจจัยหลายๆอย่างที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่ B2C จะมี sales cycle ที่ค่อนข้างสั้น ทำให้ซอฟต์แวร์ก็จะมีความแตกต่างกันอย่างมาก
มูลค่าของดีล - แน่นอนว่ามูลค่าดีลของ B2B มักจะมีค่าค่อนข้างสูง และการซื้อเกิดขึ้นน้อยครั้ง ในขณะที่ B2C มูลค่าแต่ละการซื้อน้อย แต่เน้นจำนวนครั้ง
Account vs. people - B2B CRM มุ่งเน้นที่การดูแล account และในแต่ละบริษัทอาจจะมีลิสท์รายชื่อของคนติดต่อ ในขณะที่ B2C CRM เน้นในเรื่องของการเข้าถึงคนในระดับรายบุคคล
ดังนั้นแล้วจะเห็นได้ว่า B2B CRM นั้นจริงๆแล้วมีความสำคัญมากๆ เพราะด้วยตัวโมเดลธุรกิจของ B2B ก็มีความซับซ้อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนั่นเอง
CRM เหมาะกับใคร?
5 ประโยชน์หลักที่ได้จาก CRM
ผู้อ่านทุกท่านคงจะพอเห็นภาพแล้วว่า CRM จะเข้ามาช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไร แต่อย่างไรก็ดีถ้ายังไม่แน่ใจว่า CRM จะช่วยอะไรได้บ้าง เราได้รวมรวมประโยชน์ของการใช้ CRM มาให้เรียบร้อยแล้ว 5 ข้อด้วยกัน
จัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ
จัดการดีลและรายงานการขาย
ปรับปรุงกระบวนการขายและเพิ่มประสิทธิภาพการติดต่อในทีม
ช่วยในเรื่องยอดขายและ metric อื่นๆ
เพิ่มความพึงพอใจลูกค้า
ติดตามเกร็ดความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับ CRM และการบริหารงานขายได้ที่
Blog: www.veniocrm.com/blog
Facebook: www.facebook.com/veniocrm
Twitter: www.twitter.com/veniocrm
Youtube: www.youtube.com/veniocrm